เปิดโลกการทำขนมไทยที่ไม่เหมือนใครกับเม็ดขนุน—ขนมหวานที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยและเต็มไปด้วยความหมายดีงาม เหมาะสำหรับการทำในโอกาสพิเศษหรือเฉลิมฉลองงานมงคล ขนมเม็ดขนุนนี้มีลักษณะคล้ายเม็ดของขนุนผลไม้ และเต็มไปด้วยรสชาติหวานกลมกล่อมจากไส้ถั่วเขียวและน้ำเชื่อมที่นุ่มนวล
การทำขนมเม็ดขนุนเองที่บ้านไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณสามารถปรับสูตรให้ตรงกับรสนิยมของคุณ แต่ยังเพิ่มความรู้และทักษะในการทำขนมไทยให้ลึกซึ้งขึ้น ด้วยขั้นตอนการทำที่ไม่ซับซ้อนและวัตถุดิบที่หาง่าย คุณสามารถสร้างขนมที่ทั้งสวยงามและอร่อย เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศของการเฉลิมฉลองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการทำขนมเม็ดขนุนอย่างละเอียด รวมถึงเคล็ดลับและข้อควรระวังที่จะช่วยให้คุณได้ขนมที่มีคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุด พร้อมทั้งแนะนำเทคนิคและวิธีการปรับสูตรให้ตรงตามความต้องการของคุณ เพื่อให้การทำขนมของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน
วัตถุดิบที่จำเป็น
ก่อนที่เราจะเริ่มทำ “เม็ดขนุน” เรามาทำความรู้จักกับวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำขนมชนิดนี้กันก่อนดีกว่าครับ
1. ถั่วเขียวเลาะเปลือก
- ปริมาณ: 250 กรัม
- การเตรียม: ถั่วเขียวเลาะเปลือกจะต้องนึ่งและบดให้ละเอียดก่อนที่จะนำมาทำขนม เพื่อให้ได้เนื้อที่เนียนและสามารถปั้นได้ง่าย
2. น้ำตาลทราย
- ปริมาณ: 80 กรัม (สำหรับทำไส้ถั่ว) และ 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
- บทบาท: ใช้ในการปรุงรสชาติให้หวานตามต้องการและทำให้น้ำเชื่อมมีความเหนียว
3. กะทิ
- ปริมาณ: 150 มิลลิลิตร
- การใช้: เพิ่มความมันและกลิ่นหอมให้กับไส้ถั่ว
4. ไข่แดงของไข่เป็ด
- ปริมาณ: 3 ฟอง
- การใช้: ใช้ชุบขนมก่อนที่จะลงไปในน้ำเชื่อม เพื่อให้ผิวหน้าขนมมีความเงางามและมีสีสัน
5. น้ำเปล่า
- ปริมาณ: 3 ถ้วยตวง
- การใช้: ใช้ในการทำน้ำเชื่อม
6. ใบเตย
- ปริมาณ: 1 มัด
- บทบาท: เพิ่มกลิ่นหอมให้กับน้ำเชื่อม
7. กลิ่นมะลิ
- ปริมาณ: ½ ช้อนชา
- การใช้: เพิ่มกลิ่นหอมให้กับน้ำเชื่อม
วิธีทำ
1. การเตรียมไส้ถั่ว
การเตรียมถั่วเขียว: เริ่มต้นด้วยการนึ่งถั่วเขียวที่เลาะเปลือกแล้วจนสุก จากนั้นให้บดถั่วเขียวให้ละเอียด เพื่อให้ได้เนื้อที่เนียนและสามารถปั้นได้ง่าย การนึ่งจะทำให้ถั่วเขียวอ่อนตัวและบดย่อยง่ายขึ้น ข้อสำคัญคือต้องให้เนื้อถั่วเขียวไม่แฉะเกินไป เพราะหากมีความชื้นมากเกินไปจะทำให้การปั้นขนมเป็นไปได้ยาก
การผัดไส้ถั่ว: นำถั่วเขียวที่บดแล้วลงในกระทะ และเพิ่มน้ำตาลทรายและกะทิลงไป ผัดด้วยไฟกลางจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันและแห้งดี การผัดด้วยไฟกลางจะช่วยให้ส่วนผสมรวมตัวกันและกลิ่นของกะทิจะกระจายอย่างทั่วถึง ขนมที่ได้จะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนและมีรสชาติหวานมัน
การปั้นขนม: เมื่อไส้ถั่วเย็นลง ให้นวดให้เป็นก้อนแล้วปั้นเป็นรูปทรงเม็ดขนุน ขนาดและรูปร่างของขนมควรมีความสม่ำเสมอ เพื่อให้ขนมมีลักษณะที่สวยงาม การปั้นขนมจะต้องทำอย่างระมัดระวังเพราะถ้าเนื้อถั่วเขียวแฉะเกินไปจะทำให้ไม่สามารถปั้นให้เป็นรูปทรงที่ต้องการได้
2. การทำน้ำเชื่อม
การเตรียมน้ำเชื่อม: นำน้ำ น้ำตาลทราย ใบเตย และกลิ่นมะลิลงในกระทะทองเหลืองหรือภาชนะที่มีความลึก เคี่ยวน้ำเชื่อมด้วยไฟอ่อนจนเหนียวเป็นยางมะตูม การเคี่ยวน้ำเชื่อมจะช่วยให้ส่วนผสมทั้งหมดรวมกันและทำให้น้ำเชื่อมมีความเหนียวและหนืดขึ้น
การตรวจสอบความหนืดของน้ำเชื่อม: เมื่อเคี่ยวน้ำเชื่อมจนเหนียว ควรตรวจสอบความหนืดโดยการหยดน้ำเชื่อมลงในน้ำเย็น หากน้ำเชื่อมแข็งตัวเป็นก้อนเหมือนยางมะตูมแสดงว่าน้ำเชื่อมได้ที่แล้ว หากน้ำเชื่อมยังไม่เหนียวพอ สามารถเพิ่มน้ำตาลและเคี่ยวนานขึ้นได้
3. การหยอดขนมลงในน้ำเชื่อม
การชุบไข่แดง: ตีไข่แดงให้แตกและใช้ชุบขนมที่ปั้นไว้ในไข่แดงให้ทั่ว การชุบไข่แดงจะช่วยให้ขนมมีความเงางามและสีสันสวยงามเมื่ออยู่ในน้ำเชื่อม
การหยอดขนมลงในน้ำเชื่อม: นำขนมที่ชุบไข่แดงแล้วลงไปในหม้อน้ำเชื่อม ใช้ไฟอ่อนในการเคี่ยวน้ำเชื่อมเพื่อไม่ให้น้ำเชื่อมเดือด การทำให้ขนมได้ที่ต้องให้ความร้อนอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะช่วยให้น้ำเชื่อมมีความเหนียวขึ้นโดยไม่ทำให้เกิดฟอง
การควบคุมความหนืดของน้ำเชื่อม: หากพบว่าน้ำเชื่อมมีความหนืดเกินไปในระหว่างการทำ สามารถเพิ่มน้ำและน้ำตาลได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้ขนมได้รสชาติและความนุ่มนวลที่ดีที่สุด
4. การเสิร์ฟขนม
การตักขนม: เมื่อขนมสุกแล้ว ใช้กระชอนตักขึ้นมาและวางบนจาน ขนมจะมีความนุ่มและมีสีสันสวยงาม การเสิร์ฟขนมในขณะที่ยังอุ่นจะทำให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด และสามารถเสิร์ฟให้กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงได้ทันที
การเก็บรักษาขนม: หากไม่สามารถรับประทานขนมทั้งหมดได้ทันที ควรเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิดและเก็บในที่เย็นเพื่อรักษาความสดใหม่และป้องกันการแห้งกรอบ
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการทำ “เม็ดขนุน”
1. การเลือกถั่วเขียวที่ดี
คุณภาพของถั่วเขียว: การเลือกถั่วเขียวที่มีคุณภาพดีเป็นสิ่งสำคัญในการทำ “เม็ดขนุน” ถั่วเขียวที่ดีควรมีสีเขียวสดและไม่มีรอยแผลหรือจุดสีคล้ำ การเลือกถั่วเขียวที่ใหม่และสดจะช่วยให้เนื้อขนมมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด
การนึ่งและบดถั่วเขียว: การนึ่งถั่วเขียวให้สุกเต็มที่และบดให้ละเอียดเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ถั่วเขียวที่นึ่งไม่สุกหรือบดไม่ละเอียดจะทำให้ขนมมีเนื้อไม่เนียนและยากต่อการปั้น นอกจากนี้ การนึ่งถั่วเขียวให้สุกอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความชื้นและทำให้ถั่วเขียวมีเนื้อสัมผัสที่ดีในการทำไส้ขนม
2. การควบคุมความร้อน
การผัดไส้ถั่ว: ควบคุมความร้อนให้พอเหมาะเมื่อผัดไส้ถั่ว เพื่อให้ไส้ถั่วมีเนื้อสัมผัสที่ดีและไม่แฉะเกินไป การใช้ไฟกลางจะช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันและแห้งดี การผัดด้วยไฟสูงเกินไปอาจทำให้เนื้อถั่วไหม้และรสชาติของขนมจะเสีย
การทำให้ขนมสุกในน้ำเชื่อม: เมื่อหยอดขนมลงในน้ำเชื่อม การใช้ไฟอ่อนจะช่วยให้น้ำเชื่อมไม่เดือดและขนมได้รสชาติที่ดี การทำให้น้ำเชื่อมมีความเหนียวและไม่เดือดจะช่วยให้ขนมดูสวยงามและมีความหวานพอเหมาะ
3. การปรับความหวานของน้ำเชื่อม
การปรับปริมาณน้ำตาล: ความหวานของน้ำเชื่อมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบส่วนบุคคล หากต้องการน้ำเชื่อมที่หวานน้อยลง สามารถลดปริมาณน้ำตาลลงได้ แต่ต้องระวังไม่ให้ความหวานต่ำเกินไป เพราะอาจทำให้ขนมไม่มีรสชาติที่เพียงพอ
การตรวจสอบความหนืดของน้ำเชื่อม: หากน้ำเชื่อมยังไม่เหนียวพอ สามารถเพิ่มน้ำตาลและเคี่ยวนานขึ้นได้ การตรวจสอบความหนืดโดยการหยดน้ำเชื่อมลงในน้ำเย็นจะช่วยให้ทราบถึงระดับความเหนียวที่เหมาะสม
4. เทคนิคในการปั้นขนม
การปั้นให้สม่ำเสมอ: การปั้นขนมให้มีขนาดและรูปร่างที่สม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ขนมดูสวยงามและน่ารับประทาน การใช้มือที่สะอาดและมีความชำนาญในการปั้นจะช่วยให้ขนมมีรูปร่างที่สวยงาม
การใช้เครื่องมือช่วย: หากต้องการให้ขนมมีขนาดที่แม่นยำ สามารถใช้เครื่องมือเช่น ลูกกลิ้งหรือแม่พิมพ์ในการปั้นขนม การใช้เครื่องมือช่วยจะทำให้ขนมมีขนาดและรูปร่างที่เท่ากัน
5. การเก็บรักษาขนม
การเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท: หลังจากที่ขนมเย็นแล้ว ควรเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิดเพื่อป้องกันความชื้นและรักษาความสดใหม่ การเก็บขนมในที่เย็นจะช่วยให้ขนมยังคงความนุ่มและไม่แห้งกรอบ
การเก็บในตู้เย็น: หากต้องการเก็บขนมไว้เป็นเวลานาน สามารถเก็บในตู้เย็นได้ การเก็บในตู้เย็นจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษา แต่ควรนำขนมออกมาให้ถึงอุณหภูมิห้องก่อนรับประทานเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
ข้อดีของการทำขนม “เม็ดขนุน” เอง
1. ความสดใหม่และคุณภาพที่ควบคุมได้
เมื่อทำขนม “เม็ดขนุน” เองที่บ้าน คุณจะสามารถควบคุมคุณภาพของส่วนผสมทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ การเลือกถั่วเขียวที่สดใหม่และการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้ขนมของคุณมีรสชาติที่ดีที่สุดและมีเนื้อสัมผัสที่สมบูรณ์แบบ
การควบคุมคุณภาพ: การทำขนมเองทำให้คุณสามารถเลือกใช้วัตถุดิบที่คุณชื่นชอบและหลีกเลี่ยงสารเคมีหรือวัตถุดิบที่อาจไม่เหมาะสมกับสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำขนมที่มีส่วนผสมสำคัญเช่นถั่วเขียวและน้ำตาลทราย การเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพจะช่วยให้ขนมมีรสชาติและความสดใหม่ที่ดีกว่า
2. การประหยัดค่าใช้จ่าย
การทำขนมที่บ้านมักจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการซื้อขนมจากร้านค้า ขนม “เม็ดขนุน” เป็นขนมที่มีต้นทุนต่ำในการทำเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อจากร้านที่อาจมีราคาสูงกว่าหลายเท่า
การจัดการต้นทุน: การซื้อวัตถุดิบหลักในปริมาณมาก เช่น ถั่วเขียวและน้ำตาลทราย จะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยของขนมได้ นอกจากนี้ การทำขนมเองยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณขนมที่ทำและหลีกเลี่ยงการเสียเงินซื้อขนมที่มีขนาดมากเกินความต้องการ
3. การปรับสูตรตามความชอบ
การทำขนม “เม็ดขนุน” ที่บ้านให้คุณมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนสูตรตามความชอบส่วนตัว คุณสามารถปรับปริมาณน้ำตาลหรือเพิ่มส่วนผสมพิเศษ เช่น กลิ่นมะลิหรือใบเตย เพื่อให้ได้รสชาติที่ตรงตามความต้องการของคุณ
การปรับสูตร: การทำขนมเองทำให้คุณสามารถทดลองและปรับปรุงสูตรให้เหมาะสมกับรสนิยมของคุณและครอบครัว หากคุณชอบรสชาติหวานมากขึ้น สามารถเพิ่มน้ำตาลหรือเพิ่มส่วนผสมที่ชื่นชอบได้ตามต้องการ
4. การสร้างประสบการณ์และความทรงจำ
การทำขนม “เม็ดขนุน” ที่บ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง การทำขนมร่วมกันไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความสนุกสนาน แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน
การสร้างความสัมพันธ์: การทำขนมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนๆ สามารถเป็นกิจกรรมที่สนุกและช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี การทำขนมร่วมกันยังช่วยสอนทักษะการทำอาหารและการทำงานร่วมกันในครอบครัว
5. การเตรียมอาหารสำหรับงานพิเศษ
การทำขนม “เม็ดขนุน” เองที่บ้านทำให้คุณสามารถเตรียมขนมสำหรับงานพิเศษหรือเทศกาลสำคัญได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะในโอกาสที่มีความหมายพิเศษ เช่น งานมงคลหรือการเฉลิมฉลองต่างๆ
การเตรียมขนมสำหรับงานมงคล: ขนม “เม็ดขนุน” เป็นขนมที่นิยมทำในงานมงคลเพราะมีความหมายดี การทำขนมเองช่วยให้คุณสามารถเตรียมขนมที่มีความหมายพิเศษและตรงตามความต้องการของงาน
ข้อควรระวังในการทำขนม “เม็ดขนุน”
1. การควบคุมความชื้นของไส้ถั่วเขียว
ปัญหาความชื้น: หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการทำขนม “เม็ดขนุน” คือการควบคุมความชื้นของไส้ถั่วเขียว ถ้าไส้ถั่วมีความชื้นมากเกินไป จะทำให้การปั้นขนมยากและขนมไม่สามารถเก็บรูปร่างได้ดี
วิธีการแก้ไข: การผัดถั่วเขียวจนแห้งและมีเนื้อสัมผัสที่แน่นพอจะช่วยลดปัญหานี้ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไส้ถั่วเขียวไม่แฉะหรือเละเกินไป ควรใช้ไฟกลางเพื่อให้ส่วนผสมแห้งและเข้ากันอย่างดี ก่อนที่จะนำไปปั้น
2. การใช้ความร้อนในการทำไส้และน้ำเชื่อม
การควบคุมความร้อน: ความร้อนที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ไส้ถั่วเขียวไหม้หรือเสียรสชาติ และการเคี่ยวน้ำเชื่อมด้วยไฟแรงอาจทำให้น้ำเชื่อมเดือดและเสียความหนืดที่ต้องการ
วิธีการแก้ไข: ใช้ไฟกลางในการผัดไส้ถั่วเขียวและควบคุมความร้อนอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ไส้ถั่วเขียวมีเนื้อสัมผัสที่ดีและไม่ไหม้ ในการทำให้น้ำเชื่อมเหนียว ควรเคี่ยวด้วยไฟอ่อนและตรวจสอบความหนืดอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ความเหนียวที่เหมาะสม
3. การปั้นขนมให้มีรูปร่างสม่ำเสมอ
ปัญหาการปั้น: การปั้นขนม “เม็ดขนุน” ให้มีรูปร่างสม่ำเสมออาจเป็นเรื่องท้าทาย หากปั้นไม่ดีอาจทำให้ขนมมีขนาดและรูปร่างที่ไม่เท่ากัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเก็บรูปร่างเมื่อทำการทำให้สุก
วิธีการแก้ไข: ใช้เครื่องมือหรือแม่พิมพ์ช่วยในการปั้นขนมให้มีขนาดและรูปร่างที่เท่ากัน การปั้นด้วยมือที่สะอาดและมีความชำนาญจะช่วยให้ขนมมีรูปร่างที่สวยงามและสม่ำเสมอ
4. การเก็บรักษาขนม
ปัญหาการเก็บรักษา: ขนม “เม็ดขนุน” หากไม่ได้เก็บรักษาอย่างเหมาะสมอาจสูญเสียความสดใหม่และรสชาติได้ง่าย ขนมอาจเกิดความชื้นหรือแห้งกรอบหากไม่เก็บในภาชนะที่เหมาะสม
วิธีการแก้ไข: หลังจากที่ขนมเย็นแล้ว ควรเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิดเพื่อป้องกันความชื้นและรักษาความสดใหม่ การเก็บในที่เย็นหรือในตู้เย็นจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษา แต่ควรนำขนมออกมาให้ถึงอุณหภูมิห้องก่อนรับประทานเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
5. การปรับปริมาณน้ำตาล
ปัญหาความหวาน: การปรับปริมาณน้ำตาลในน้ำเชื่อมให้เหมาะสมอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย การใส่น้ำตาลมากเกินไปหรือไม่เพียงพออาจทำให้รสชาติของขนมไม่เป็นที่พอใจ
วิธีการแก้ไข: ปรับปริมาณน้ำตาลในน้ำเชื่อมตามความชอบส่วนบุคคล แต่ควรระมัดระวังไม่ให้หวานเกินไปหรือน้อยเกินไป เพื่อให้ได้รสชาติที่พอเหมาะ ควรตรวจสอบความหวานของน้ำเชื่อมอย่างสม่ำเสมอและปรับตามต้องการ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับการทำขนม “เม็ดขนุน”
1. ขนม “เม็ดขนุน” คืออะไร?
ขนม “เม็ดขนุน” เป็นขนมไทยที่มีลักษณะคล้ายเม็ดของผลไม้ขนุน โดยใช้ถั่วเขียวเลาะเปลือกเป็นส่วนผสมหลัก ขนมนี้มักใช้ในงานมงคลเพราะมีความหมายดีและนิยมทำกันในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงานหรือการเฉลิมฉลอง
2. ฉันต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้างในการทำขนม “เม็ดขนุน”?
วัตถุดิบหลักในการทำขนม “เม็ดขนุน” ได้แก่:
- ถั่วเขียวเลาะเปลือก 250 กรัม
- น้ำตาลทราย 80 กรัม (สำหรับทำไส้ถั่ว)
- กะทิ 150 มิลลิลิตร
- ไข่แดงของไข่เป็ด 3 ฟอง
- น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
- ใบเตย 1 มัด
- กลิ่นมะลิ ½ ช้อนชา
3. ฉันควรใช้ถั่วเขียวชนิดใดในการทำขนม?
ควรใช้ถั่วเขียวเลาะเปลือก ซึ่งจะทำให้การทำไส้ถั่วมีความเนียนและนุ่ม ไม่ควรใช้ถั่วเขียวที่ยังมีเปลือกเพราะจะทำให้ขนมมีเนื้อสัมผัสที่หยาบและไม่เนียน
4. ขนม “เม็ดขนุน” สามารถเก็บไว้ได้นานแค่ไหน?
ขนม “เม็ดขนุน” ที่ทำเสร็จแล้วสามารถเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิดและเก็บในที่เย็นหรือในตู้เย็นได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ควรนำออกมาให้ถึงอุณหภูมิห้องก่อนรับประทานเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
5. การทำขนม “เม็ดขนุน” ต้องใช้เวลาเท่าไหร่?
การทำขนม “เม็ดขนุน” ใช้เวลาโดยประมาณ 2-3 ชั่วโมง รวมถึงเวลาในการเตรียมวัตถุดิบ การผัดไส้ถั่ว การทำน้ำเชื่อม และการปั้นขนม
สรุป
การทำขนม “เม็ดขนุน” ไม่ยากอย่างที่คิดครับ โดยการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและปฏิบัติตามขั้นตอนที่แนะนำข้างต้น คุณก็สามารถทำขนมที่อร่อยและมีลักษณะสวยงามได้เองที่บ้าน พร้อมเสิร์ฟให้กับครอบครัวและเพื่อนฝูงในงานมงคลหรือโอกาสพิเศษต่างๆ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับสูตรนี้ สามารถสอบถามได้เลยครับ และหากทำแล้วอย่าลืมแชร์ภาพผลงานของท่านให้เราดูด้วยนะครับ ขอให้สนุกกับการทำขนมและมีความสุขในการรับประทานครับ!