วิธีทำแจ่วปลาร้าพริกสด อาหารอีสาน สูตรนี้แซ่บเลียถ้วย

คุณเคยสัมผัสรสชาติของอาหารอีสานกันมาก่อนหรือไม่? ความเผ็ดร้อนและรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ของอาหารอีสานที่มีความนิยมทั้งในและนอกประเทศไทย เมนูแจ่วปลาร้าพริกสดก็เป็นหนึ่งในอาหารที่คอยสร้างความตื่นเต้นให้กับคนรักความเผ็ด วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีทำแจ่วปลาร้าพริกสดในรูปแบบของสูตรอีสานที่แสนแซ่บเลยทีเดียว!

เตรียมส่วนประกอบหลัก

ส่วนประกอบ ปริมาณ
พริกสด (พริกกะเหรี่ยง) 30 เม็ด
กระเทียม 3 กลีบ
หอมแดง 6 หัว
มะเขือเทศลูกเล็ก 2 ลูก
น้ำปลาร้าต้ม 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
ผงชูรส 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่ง 5 ใบ (ซอย)

การเตรียมปลาร้าและพริกสด

รวมสูตร 7 สูตรน้ำจิ้มแจ่ว หลากสไตล์ แสนจัดจ้าน พฤษภาคม 2022 - Sale Here

ในขั้นตอนการเตรียมปลาร้าและพริกสด เตรียมการสร้างรสชาติที่เผ็ดร้อนและเข้มข้นของอาหารแจ่วปลาร้าพริกสด เราจะใช้ส่วนประกอบที่สดชื่นและหอมหวานเข้ามาเติมเต็มความอร่อยของเมนูนี้

ในการเตรียมปลาร้า เราสามารถเลือกใช้ปลาร้าสดหรือแช่แข็งก่อนต้มข้าวแจ่ว การเลือกปลาร้าที่สดชื่นจะช่วยให้เมนูมีความกรอบและอร่อยมากยิ่งขึ้น หากคุณใช้ปลาร้าแช่แข็ง ให้นำออกมาจากแช่แข็งและล้างปลาร้าให้สะอาดก่อนนำมาใช้งาน

ส่วนพริกสดเป็นส่วนที่มีความเผ็ดและเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารอีสาน คุณสามารถเลือกใช้พริกสีแดงหรือเขียวตามความชอบของคุณ และเพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมของเมนู ให้เตรียมสมุนไพรอาทิตย์ช่วงเช้า เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เพื่อใส่ลงในน้ำพริกสด

เมื่อเตรียมส่วนประกอบเหล่านี้ครบถ้วน ขั้นตอนถัดไปคือการทำน้ำพริกสด ที่จะเป็นเครื่องหน้าสำคัญในการเพิ่มความเผ็ดและเข้มข้นให้กับเมนูแจ่วปลาร้าพริกสดของคุณ การบดพริกสดพร้อมกับสมุนไพรและเครื่องปรุงเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้รสชาติทั้งหมดประสิทธิภาพในการผสมกันเป็นอย่างดี พร้อมทั้งเตรียมส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อให้เมนูสุดแซ่บพร้อมที่จะเสริฟ!

การทำน้ำพริกสด

การทำน้ำพริกสดเป็นขั้นตอนสำคัญที่ให้กลิ่นหอมและความเผ็ดเข้มข้นให้กับแจ่วปลาร้าพริกสด น้ำพริกสดเป็นเครื่องปรุงสำคัญที่จะเพิ่มรสชาติให้กับเมนูอีสานอย่างนี้ นี่คือขั้นตอนในการทำน้ำพริกสด:

  1. นำพริกสดมาล้างให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อให้ง่ายต่อการบด
  2. ใช้คัมภีร์ยับยั้งในครกหรือเครื่องปั่นในการบดพริกสดพร้อมกับสมุนไพรและเครื่องปรุง
  3. ใช้ความร้อนจากการบดเป็นประจุในการผสมน้ำพริกสด เพื่อให้สารต่างๆ ในส่วนประกอบเริ่มมีกลิ่นหอมและรสชาติคล้ายคลึงกัน
  4. เมื่อบดพริกสดเป็นเนื้อแป้งละเอียดพร้อมกับสมุนไพรและเครื่องปรุง ให้เก็บใส่ภาชนะให้สุกก่อนนำมาใช้ในการทำแจ่วปลาร้าพริกสด

น้ำพริกสดนี้เป็นเครื่องหน้าที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นหอม คุณสามารถปรับปรุงรสชาติตามความชอบของคุณได้โดยเพิ่มน้ำปลาหรือน้ำมันหอย หรือแม้แต่เครื่องปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รสชาติที่คุณต้องการ เมื่อทำน้ำพริกสดเสร็จสิ้น คุณก็พร้อมที่จะนำมาใช้ในการผสมและทำแจ่วปลาร้าพริกสดที่อร่อยและเผ็ดร้อนแบบฉูดถ้วย!

การเตรียมสมุนไพรและเครื่องปรุง

แจก 7 สูตรน้ำจิ้มแจ่ว รสจัดจ้าน หลากหลายสไตล์ กุมภาพันธ์ 2021 - Sale Here

การเตรียมสมุนไพรและเครื่องปรุงเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นให้กับแจ่วปลาร้าพริกสด สมุนไพรและเครื่องปรุงที่ใช้จะเป็นตัวเติมรสที่เหมาะสมกับเมนูนี้ นี่คือขั้นตอนในการเตรียมสมุนไพรและเครื่องปรุง:

  1. นำสมุนไพรที่จะใช้เตรียมในเมนูนี้ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด มาล้างให้สะอาดและหั่นเล็กๆ ให้ง่ายต่อการใส่ในน้ำพริกสด
  2. ในกรณีของตะไคร้ สามารถใช้เฉพาะส่วนที่มีกลิ่นหอม (ใบบน) เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่เข้มข้นที่สุด
  3. เมื่อมีสมุนไพรพร้อมแล้ว จะนำมาบดพร้อมกับพริกสดในครกหรือเครื่องปั่น จะช่วยให้สารต่างๆ สละสลวยเข้ากันและเพิ่มความหอมของสมุนไพร
  4. อาจจะเพิ่มเครื่องปรุงเพิ่มเติมตามความชอบ เช่น น้ำปลา น้ำมันหอย เพื่อเพิ่มความเค็มและกลิ่นหอมให้กับน้ำพริกสด

การเตรียมสมุนไพรและเครื่องปรุงเป็นขั้นตอนที่เพิ่มความอร่อยและความเข้มข้นให้กับเมนู โดยการใช้สมุนไพรอันหอมหวานและเครื่องปรุงที่เหมาะสม น้ำพริกสดและส่วนประกอบอื่นๆ จะเข้ากันอย่างลงตัวในการทำแจ่วปลาร้าพริกสดของคุณ!

ขั้นตอนทำแจ่วปลาร้าพริกสด

ขั้นตอนทำแจ่วปลาร้าพริกสดเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะสร้างรสชาติและความเผ็ดเข้มข้นของเมนูนี้ให้พร้อมที่จะเสิร์ฟ นี่คือขั้นตอนในการทำแจ่วปลาร้าพริกสด:

  1. ต้มปลาร้า: ในหม้อน้ำเดือด ใส่ปลาร้าลงไปต้มจนสุก นำออกจากน้ำและให้เย็นสักครู่ หลังจากนั้นให้หั่นปลาร้าเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้สามารถผสมกับน้ำพริกสดได้ง่ายขึ้น
  2. ผสมน้ำพริกสด: ในครกหรือเครื่องปั่น นำพริกสดที่บดเตรียมไว้ รวมกับสมุนไพรที่เตรียมมาบดด้วย และเพิ่มเครื่องปรุงเช่น น้ำปลา ผงชูรส และน้ำมันหอย บดให้เข้ากันให้มีความเนียน และกลิ่นหอมเข้มข้น
  3. ผสมปลาร้าและน้ำพริกสด: ในชามใหญ่ นำชิ้นปลาร้าที่หั่นเตรียมไว้ ผสมกับน้ำพริกสดที่เตรียมไว้ ค่อยๆ คนเบาๆ ให้เข้ากัน เพื่อให้ปลาร้าได้รับรสชาติและกลิ่นของน้ำพริกสด
  4. ปรุงรสชาติ: คุณสามารถปรุงรสชาติตามความชอบโดยเพิ่มน้ำปลาหรือน้ำมันหอยเพิ่มเติม และสั่งปริมาณเกลือและผงชูรสตามรสชาติที่คุณต้องการ

เมื่อทำขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้น คุณจะได้รับแจ่วปลาร้าพริกสดที่เข้มข้นด้วยรสชาติและความเผ็ดที่เข้ากันอย่างลงตัว และคุณก็พร้อมที่จะสนุกกับความอร่อยแบบอีสานที่แท้จริง!

การต้มปลาร้า

แจกสูตรน้ำจิ้มแจ่ว ยั่วๆ นัวลิ้น ใครกินก็ติดใจ (ไม่ใส่ผงชูรส) Nam Jim Jaew Recipe - ใหม่ใจหนุน - YouTube

การต้มปลาร้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการเตรียมส่วนประกอบหลักของเมนูแจ่วปลาร้าพริกสด นี่คือขั้นตอนในการต้มปลาร้า:

  1. นำปลาร้าออกจากแช่แข็ง (หากใช้ปลาร้าแช่แข็ง): เมื่อใช้ปลาร้าแช่แข็ง ให้นำออกจากแช่แข็งและใส่ในชามน้ำเย็นเพื่อให้ปลาร้าละลายและเย็นลง
  2. ล้างปลาร้า: ให้ล้างปลาร้าที่ได้มาให้สะอาดโดยใช้น้ำเย็น นำออกมาจากน้ำเย็นและแช่ในน้ำเย็นอีกครั้ง ทำเช่นนี้เพื่อให้ปลาร้ามีความสดชื่นและไม่มีกลิ่นเหม็น
  3. ตั้งหม้อใส่น้ำให้เดือด: นำหม้อใส่น้ำเพียงพอเพื่อต้มปลาร้า นำไปตั้งที่เตาและรอจนน้ำเดือด
  4. ต้มปลาร้า: เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้ใส่ปลาร้าลงไปในหม้อ ความเร็วในการต้มขึ้นอยู่กับขนาดของปลาร้า ปลาร้าจะสุกเมื่อเนื้อมีสีขาวและกระชับ
  5. นำปลาร้าออก: เมื่อปลาร้าสุกแล้ว ใช้ที่ตามใบแหวนหรือที่ต้มเพื่อดึงปลาร้าออกจากน้ำ หลังจากนั้นให้ปลาร้าเย็นลงโดยใส่ลงในน้ำเย็น

เมื่อทำขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้น คุณก็ได้ปลาร้าที่สุกและพร้อมที่จะนำมาใช้ในการผสมกับน้ำพริกสดและทำเมนูแจ่วปลาร้าพริกสดอร่อยแล้ว!

การผสมน้ำพริกสดและปลาร้า

การผสมน้ำพริกสดและปลาร้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างรสชาติและความเผ็ดเข้มข้นให้กับแจ่วปลาร้าพริกสด นี่คือขั้นตอนในการผสมน้ำพริกสดและปลาร้า:

  1. เตรียมน้ำพริกสด: นำน้ำพริกสดที่เตรียมไว้มาใส่ในชามใหญ่ คุณสามารถปรับปรุงรสชาติของน้ำพริกสดตามความชอบโดยเพิ่มน้ำปลาหรือน้ำมันหอย หากต้องการให้มีความเค็มหรือหอมเข้มข้นขึ้น
  2. เตรียมปลาร้า: นำปลาร้าที่ต้มสุกและผ่านขั้วโรยลงบนน้ำพริกสดในชาม ให้ใช้ช้อนเปิดเนื้อปลาร้าออกเป็นเส้นเล็กๆ พร้อมผสมเข้ากับน้ำพริกสด
  3. คนผสม: ใช้ช้อนไม้หรือช้อนสแตนเลสคนผสมปลาร้าและน้ำพริกสดเข้ากันอย่างใบ้วน ให้รสชาติและความเผ็ดแพร่กระจายทั่วถึง
  4. ปรุงรสชาติเพิ่มเติม: หากต้องการปรับปรุงรสชาติ เพิ่มเครื่องปรุงเช่น น้ำปลาหรือน้ำมันหอย เพื่อเพิ่มความเค็มและกลิ่นหอม คุณยังสามารถใส่ผงชูรสหรือน้ำปรุงรสอื่นๆ เพิ่มเติมตามความชอบของคุณ

เมื่อทำขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้น คุณก็ได้แจ่วปลาร้าพริกสดที่เต็มไปด้วยรสชาติและความเผ็ดเข้มข้น เตรียมพร้อมที่จะเสิร์ฟและสนุกกับความอร่อยของอาหารอีสานที่แท้จริง!

การปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมันหอย

น้ําจิ้มแจ่วมะขามเปียกรสเด็ด! | CP Brandsite เติมชีวิตที่ดี

การปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมันหอยเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเพิ่มความเค็มและกลิ่นหอมให้กับแจ่วปลาร้าพริกสด การใช้น้ำปลาและน้ำมันหอยเป็นเครื่องปรุงเสริมสำคัญที่จะช่วยเพิ่มรสชาติและความเข้มข้นให้กับเมนูนี้อย่างทรงพลัง นี่คือขั้นตอนในการปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมันหอย:

เมื่อน้ำพริกสดและปลาร้าผสมกันเป็นอย่างดี มาถึงขั้นตอนการปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมันหอย ที่จะเติมรสชาติเครื่องปรุงเพิ่มเติมให้กับแจ่วปลาร้าพริกสด เพื่อให้ได้รสชาติที่คุณต้องการ

น้ำปลา: เนื่องจากน้ำปลาเป็นเครื่องปรุงสำคัญในอาหารอีสาน คุณสามารถเติมน้ำปลาเพื่อเพิ่มความเค็มและรสชาติลึกลงในแจ่วปลาร้าพริกสดของคุณ แต่ควรปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อยในครั้งแรกและค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามรสชาติที่คุณต้องการ

น้ำมันหอย: น้ำมันหอยเป็นอีกตัวเติมรสชาติที่สำคัญ โดยเพิ่มความหอมและรสชาติเข้มข้นให้กับเมนู คุณสามารถเติมน้ำมันหอยลงไปเล็กน้อยในแต่ละครั้ง และทดลองชิมเพื่อปรับปรุงรสชาติให้พอดีกับความชอบของคุณ

ปริมาณ: ควรทดลองเพิ่มน้ำปลาและน้ำมันหอยเป็นบางส่วนในเมนู และค่อยๆ ปรับปรุงตามรสชาติที่คุณต้องการ ความเค้มและความหอมจะมีผลต่อรสชาติของอาหาร ดังนั้นคุณควรจะปรุงรสชาติให้ได้ตามต้องการ

เมื่อทำขั้นตอนการปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมันหอยเสร็จสิ้น คุณก็จะได้แจ่วปลาร้าพริกสดที่อร่อยหอมเข้ากันอย่างลงตัว จะเป็นอาหารอีสานที่เผ็ดร้อนและอร่อยแบบแท้จริง พร้อมที่จะเสิร์ฟและสนุกกับความอร่อยที่ต้องการ!

ข้อควรระวังในการทำ

ข้อควรระวังในการทำแจ่วปลาร้าพริกสดเป็นข้อมูลที่สำคัญที่คุณควรทราบและปฏิบัติเพื่อให้ได้ผลการทำอาหารที่ดีและปลอดภัย นี่คือข้อควรระวังที่คุณควรจะมีในการทำเมนูนี้:

การใช้รสจัด: น้ำพริกสดและเครื่องปรุงที่ใช้ในเมนูนี้มีรสเผ็ดเข้มข้นและเค็ม ดังนั้นควรคำนึงถึงปริมาณที่ใช้ให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เมนูมีรสเผ็ดหรือเครื่องปรุงมากเกินไปที่จะทำให้อาหารไม่เข้ากันกับรสชาติของคนอื่นๆ

การจัดเก็บปลาร้า: หากใช้ปลาร้าแช่แข็ง ต้องระวังให้ปลาร้าต้มสุกทันเวลาและอย่าปลาร้าในน้ำเย็นนานเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ปลาร้าเน่าหรือไม่สดชื่น

ความสะอาดและอย่างมีเสียง: ควรรักษาความสะอาดของส่วนประกอบทั้งหมดในขั้นตอนการทำอาหาร การล้างมือและอุปกรณ์ก่อนใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค

การปรุงรสเป็นขั้นตอน: ในการปรุงรสให้เริ่มจากปริมาณน้ำปลาและน้ำมันหอยที่น้อย และค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามความชอบของคุณ ควรลองชิมและปรับปรุงรสชาติเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รสชาติที่คุณต้องการ

การปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้การทำแจ่วปลาร้าพริกสดเป็นไปได้อย่างปลอดภัยและได้ผลอร่อยตามความคาดหวังของคุณและผู้ที่ได้รับอาหารด้วยค่ะ

สรุป

การทำแจ่วปลาร้าพริกสดเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญในการสร้างอาหารอีสานที่อร่อยและเผ็ดร้อน การเตรียมส่วนประกอบหลักและการผสมน้ำพริกสดกับปลาร้าเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการปรุงรสชาติและการบำรุงความสดชื่นของส่วนประกอบทั้งหมด โดยการปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมันหอยจะช่วยเพิ่มความเค็มและกลิ่นหอมให้กับแจ่วปลาร้าพริกสด ผสมกันอย่างพอดีเพื่อให้ได้รสชาติและความเผ็ดที่เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังควรคำนึงถึงความสะอาดและความปลอดภัยในขั้นตอนการทำอาหาร เพื่อให้ผู้รับประทานได้รับประสบการณ์การทานอาหารที่ดีและปลอดภัยเสมอ_

FAQs

1. น้ำพริกสดที่ใช้ต้มแจ่วปลาร้าต้องเผ็ดมากหรือน้อย?

การใช้น้ำพริกสดที่เผ็ดแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณ หากคุณชื่นชอบรสเผ็ดเข้มข้น สามารถใช้น้ำพริกสดที่เผ็ดมากได้ แต่หากคุณต้องการรสชาติเผ็ดที่อ่อนๆ สามารถลดปริมาณน้ำพริกสดได้ตามต้องการ

2. สามารถใช้ปลาร้าแช่แข็งแทนปลาร้าสดได้ไหม?

ได้ครับ คุณสามารถใช้ปลาร้าแช่แข็งแทนปลาร้าสดได้ แต่ควรระวังเวลาต้มให้ปลาร้าสุกอย่างเพียงพอ และอย่าปลาร้าในน้ำเย็นนานเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้เน่า

3. สามารถใช้เครื่องปรุงรสอื่นๆ นอกจากน้ำปลาและน้ำมันหอยได้ไหม?

ได้ครับ คุณสามารถปรับปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสตามความชอบ เช่น น้ำมันงา น้ำมันหอมระเหย หรือเกลือ เพื่อให้ได้รสชาติที่ตรงตามความคาดหวัง

4. มีวิธีเตรียมสมุนไพรและเครื่องปรุงแทนในกรณีที่ไม่พร้อมหรือหาซื้อยากไหม?

ถูกครับ หากไม่พร้อมหรือหาซื้อยาก คุณสามารถใช้สมุนไพรและเครื่องปรุงที่มีอยู่ในครัวเป็นตัวเลือกแทนได้ เช่น ใช้มะกรูดแห้งแทนใบมะกรูดสด

5. สามารถเพิ่มเครื่องปรุงเพิ่มเติมหลังจากต้มแล้วได้ไหม?

ได้ครับ หากพบว่ารสชาติยังไม่เพียงพอหรือต้องการเพิ่มรสชาติบางอย่าง คุณสามารถเพิ่มเครื่องปรุงรสอื่นๆ เช่น น้ำมันหอมระเหย น้ำมันงา หรือผงชูรสเล็กน้อยเพิ่มเติมได้ตามความชอบของคุณ