วิธีทำขนมเทียนแก้ว: สูตรแป้งใส ไส้เค็มอร่อยสำหรับตรุษจีน

ขนมเทียนแก้วเป็นขนมมงคลที่ไม่เพียงแค่ให้รสชาติอร่อย แต่ยังเต็มไปด้วยความหมายในเทศกาลตรุษจีนที่กำลังใกล้เข้ามา ขนมนี้มีลักษณะเด่นคือแป้งใสเหนียวที่ห่อด้วยไส้เค็มรสเข้มข้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองและโชคลาภในปีใหม่ ด้วยขั้นตอนการทำที่ละเอียดและใส่ใจในทุกรายละเอียด ขนมเทียนแก้วจึงเป็นที่นิยมในการไหว้เจ้าหรือใช้ในการเฉลิมฉลอง

การทำขนมเทียนแก้วอาจดูเหมือนเป็นงานที่ซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเตรียมส่วนผสมและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ชัดเจน การเริ่มต้นจากการเตรียมไส้เค็มที่เข้มข้นไปจนถึงการทำแป้งให้มีความเหนียวพอเหมาะ เป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างขนมเทียนแก้วที่อร่อยและสมบูรณ์แบบ

เพื่อให้ขนมเทียนแก้วของคุณมีคุณภาพดีและสามารถประสบความสำเร็จในเทศกาลตรุษจีน การใช้เคล็ดลับและข้อควรระวังที่ถูกต้องจะช่วยให้การทำขนมของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เราจะพาคุณผ่านทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณสามารถสร้างสรรค์ขนมเทียนแก้วที่น่าประทับใจและเป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว

วัตถุดิบที่จำเป็น

ขนม เทียน แก้ว แบ่งปันความอร่อย ขนมไทย แป้งเหนียวนุ่ม

วัตถุดิบสำหรับไส้เค็ม

  • ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 250 กรัม (น้ำหนักก่อนนึ่ง)
  • กระเทียมไทย 50 กรัม
  • น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
  • ต้นหอมซอย 2 ต้น (หรือหอมเจียว)

วัตถุดิบสำหรับแป้ง

  • แป้งมันสำปะหลัง 300 กรัม
  • แป้งท้าวยายม่อม 200 กรัม (สามารถใช้แป้งมันแทนได้)
  • น้ำตาลทรายขาว 300 กรัม
  • น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 720 กรัม

เตรียมส่วนผสมสำหรับไส้เค็ม

แป้งขนมเทียนแก้ว พร้อมวิธีทำ แป้ง500กรัม ทำเป็นขนมเทียนแก้วได้ประมาณ100ลูก  ใครทำ ก็อร่อยได้ง่ายๆ ทำขายมีกำไร | Lazada.co.th

ล้างถั่วเขียวให้สะอาด

เริ่มต้นด้วยการ ล้างถั่วเขียว เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นที่ติดมาจากการเก็บรักษา นำถั่วเขียวซีกที่ต้องการมาใส่ในน้ำสะอาดแล้วล้างให้สะอาดประมาณ 2-3 รอบ การล้างนี้จะช่วยให้ถั่วเขียวไม่มีความขมและทำให้รสชาติของไส้เค็มมีความอร่อยมากขึ้น

แช่ถั่วเขียวในน้ำ

หลังจากล้างถั่วเขียวเสร็จแล้ว ให้ แช่ถั่วเขียวในน้ำ เป็นระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง การแช่ถั่วเขียวจะช่วยให้ถั่วเขียวขยายตัวและนุ่มขึ้น ทำให้การนึ่งและบดถั่วเขียวเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ถั่วเขียวสุกเร็วและสม่ำเสมอมากขึ้น

นึ่งถั่วเขียว

เมื่อล้างและแช่ถั่วเขียวเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการ นึ่งถั่วเขียว เพื่อให้ถั่วเขียวสุกอย่างทั่วถึง นำถั่วเขียวไปนึ่งในซึ้งประมาณ 30 นาที การนึ่งจะช่วยให้ถั่วเขียวมีความนุ่มและพร้อมสำหรับการบดละเอียด การตรวจสอบความสุกของถั่วเขียวสามารถทำได้โดยการใช้ส้อมหรือไม้จิ้มฟันแทงไปที่ถั่วเขียว ถ้าไม่ติดแสดงว่าสุกแล้ว

บดถั่วเขียวให้ละเอียด

หลังจากถั่วเขียวนึ่งเสร็จแล้ว ให้ บดถั่วเขียวให้ละเอียด โดยใช้เครื่องบดหรือเครื่องโขลก การบดถั่วเขียวให้ละเอียดจะช่วยให้ไส้เค็มมีเนื้อสัมผัสที่เนียนและนุ่ม การบดละเอียดยังช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ เข้ากันได้ดีขึ้นในขั้นตอนการทำไส้เค็ม

ขั้นตอนการทำไส้เค็ม

Kanom Tian Kaew, công thức làm Kanom Tian như một món tráng miệng trong dịp Tết Nguyên Đán. Thịt trong, nhân đậm đặc

ผัดกระเทียมและปรุงรส

เริ่มต้นด้วยการ เจียวกระเทียม ให้หอมในน้ำมันพืช ตั้งกระทะบนไฟกลางค่อนอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไปพอร้อน จากนั้นเติมกระเทียมที่บดละเอียดลงไป เจียวกระเทียมจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสีทองและมีกลิ่นหอม การเจียวกระเทียมนี้จะทำให้ไส้เค็มมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดีขึ้น

เมื่อกระเทียมหอมแล้ว ให้ ใส่ถั่วเขียวที่บดละเอียด ลงไปในกระทะ ผัดให้เข้ากันกับกระเทียมจนส่วนผสมเริ่มคลายความชื้นและมีความเข้มข้นดีขึ้น จากนั้นเติม น้ำตาลทราย, พริกไทยป่น, เกลือป่น ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้มีความกลมกล่อมและเข้มข้น

ผสมส่วนผสมให้เข้ากัน

เมื่อเติมเครื่องปรุงลงไปแล้ว ให้ ผัดส่วนผสม ให้เข้ากันจนส่วนผสมทั้งหมดละลายและผสมกันได้ดี การผัดนี้จะช่วยให้รสชาติของเครื่องปรุงเข้ากันอย่างทั่วถึง ทำให้ไส้เค็มมีรสชาติที่เข้มข้นและเป็นเอกลักษณ์

เพิ่มต้นหอมซอย

หลังจากผสมส่วนผสมให้เข้ากันดีแล้ว ให้ เติมต้นหอมซอย ลงไปในกระทะและผัดให้เข้ากัน ต้นหอมซอยจะเพิ่มกลิ่นหอมและความสดชื่นให้กับไส้เค็ม ถ้าคุณไม่ชอบต้นหอมสามารถใช้หอมเจียวแทนได้

พักให้เย็น

เมื่อไส้เค็มผัดเสร็จแล้ว ให้ ปิดไฟ และพักส่วนผสมให้เย็น การพักให้เย็นจะช่วยให้ไส้เค็มเซ็ตตัวและมีความแข็งตัวที่เหมาะสมสำหรับการปั้นเป็นก้อน การพักไส้เค็มให้เย็นยังช่วยให้รสชาติของเครื่องปรุงเข้ากันได้ดียิ่งขึ้น

เตรียมส่วนผสมสำหรับแป้ง

Tặng công thức Khanom Thian Kaew, món tráng miệng kiểu Thái với nhân đặc, bột trong, mềm dai - ăn no bụng

การเลือกใช้แป้ง

การทำขนมเทียนแก้วนี้ใช้แป้งสองชนิด คือ แป้งมันสำปะหลัง และ แป้งท้าวยายม่อม ซึ่งแต่ละชนิดจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับแป้งของขนม

  • แป้งมันสำปะหลัง เป็นส่วนประกอบหลักที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มนวลและยืดหยุ่น ทำให้แป้งมีความเหนียวและไม่แข็งแม้เมื่อเย็นลง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับขนมเทียนแก้ว
  • แป้งท้าวยายม่อม หรือแป้งท้าวยายหม่อม จะช่วยเพิ่มความหนืดและความใสให้กับแป้ง ทำให้เมื่อกวนแป้งเสร็จแล้ว แป้งจะมีความใสและเหนียวกำลังดี หากไม่สามารถหาแป้งท้าวยายม่อมได้ สามารถใช้แป้งมันแทนได้ แต่จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างเล็กน้อย

การปรุงแป้ง

นอกจากการเลือกแป้งที่เหมาะสมแล้ว การปรุงแป้งก็เป็นอีกขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญ โดยมีส่วนผสมที่จำเป็นอื่น ๆ เช่น

  • น้ำตาลทรายขาว ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มความหวานและช่วยให้แป้งมีรสชาติกลมกล่อม การใช้ปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมจะช่วยให้แป้งมีรสชาติที่ลงตัว
  • น้ำมันพืช เป็นส่วนประกอบที่ช่วยให้แป้งมีความมันวาวและไม่ติดกัน ทำให้แป้งเนียนนุ่มและมีความเหนียวที่ไม่หนืดมากเกินไป
  • น้ำเปล่า เป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้แป้งสามารถนวดและกวนได้ดี การใช้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้แป้งมีความหนืดและใสกำลังดี

การร่อนแป้งและผสมส่วนผสม

ก่อนที่จะลงมือทำแป้ง ต้องเริ่มจาก การร่อนแป้ง ทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อให้แป้งมีความละเอียดและเนียนมากยิ่งขึ้น การร่อนแป้งนี้จะช่วยขจัดสิ่งแปลกปลอมและทำให้แป้งผสมกันได้อย่างทั่วถึง ทำให้เนื้อแป้งหลังจากกวนแล้วมีความเรียบเนียนและไม่เป็นก้อน

จากนั้นค่อย ๆ เติมน้ำตาลทราย ลงไปในแป้งที่ร่อนไว้แล้ว คนให้เข้ากันจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี การผสมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึงจะช่วยให้แป้งมีรสชาติที่กลมกล่อมและสมดุล

การเติมน้ำเปล่าและน้ำมันพืช

การเติมน้ำเปล่าเข้าไปในแป้งควรทำอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป โดยควรเติมน้ำทีละนิดแล้วนวดแป้งให้เข้ากัน เพื่อให้แป้งละลายได้อย่างทั่วถึงและไม่เกิดก้อน น้ำที่เติมเข้าไปจะช่วยให้แป้งมีความหนืดและใสกำลังดี เมื่อน้ำละลายเข้ากับแป้งแล้ว ให้เติมน้ำมันพืชลงไปเพื่อช่วยให้แป้งมีความมันและเหนียวนุ่ม

ขั้นตอนการทำแป้งขนมเทียนแก้ว

Nến kẹo với nhân ngọt ngào (dừa non)

การร่อนแป้งและผสมส่วนผสมแห้ง

ขั้นตอนแรกของการทำแป้งขนมเทียนแก้วเริ่มจากการร่อนแป้งทั้งสองชนิด คือ แป้งมันสำปะหลัง และ แป้งท้าวยายม่อม ให้เข้ากันดี การร่อนแป้งเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้แป้งทั้งสองชนิดผสมกันได้อย่างละเอียดและทั่วถึง นอกจากนี้ยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมที่อาจติดมากับแป้ง และทำให้เนื้อแป้งที่ได้มีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่แป้งทั้งสองชนิดร่อนไว้เรียบร้อยแล้ว ให้เติม น้ำตาลทรายขาว ลงไปในแป้งที่ร่อนไว้ แล้วคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี การผสมน้ำตาลเข้ากับแป้งในขั้นตอนนี้จะช่วยให้รสชาติของแป้งมีความหวานกลมกล่อม และช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับแป้งในระหว่างการกวน

การผสมน้ำและนวดแป้ง

เมื่อส่วนผสมแห้งเข้ากันดีแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเติม น้ำเปล่า ซึ่งควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเติมน้ำทีละนิดแล้วนวดแป้งไปพร้อม ๆ กัน การเติมน้ำอย่างระมัดระวังจะช่วยให้แป้งละลายได้ทั่วถึงและไม่เกิดก้อน น้ำที่เติมเข้ามาจะช่วยทำให้แป้งมีความเหนียวและโปร่งใสตามที่ต้องการ

การกวนแป้ง

หลังจากนวดแป้งจนเข้ากันดีแล้ว ให้นำแป้งที่ผสมแล้วลงในกระทะที่เตรียมไว้ โดยใช้ไฟกลางในการกวนแป้ง การกวนแป้งต้องใช้ความสม่ำเสมอและระมัดระวังในการควบคุมไฟ เพราะการใช้ไฟที่แรงเกินไปอาจทำให้แป้งสุกเร็วและเหนียวจนเกินไป ขณะที่การใช้ไฟที่อ่อนเกินไปอาจทำให้แป้งไม่สุกทั่วถึงและเนื้อแป้งไม่เนียน

ระหว่างการกวนแป้ง ควรใช้พายยางกวนแป้งอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนและร่อนออกจากกระทะ การกวนแป้งอย่างต่อเนื่องนี้จะช่วยให้แป้งมีความเนียนละเอียดและไม่มีฟองอากาศตกค้างอยู่ในเนื้อแป้ง นอกจากนี้ยังช่วยให้แป้งมีความเหนียวและโปร่งใสตามที่ต้องการ

การพักแป้ง

หลังจากที่แป้งจับตัวและร่อนออกจากกระทะแล้ว ให้ปิดแก๊สและใช้พายยางกวนแป้งต่อไปอีกสักครู่ เพื่อให้แป้งนุ่มขึ้นและเนียนมากยิ่งขึ้น เมื่อแป้งอุ่นลงจนถึงระดับที่สามารถจัดการได้ ให้นำแป้งมาห่อไส้ โดยควรทำในขณะที่แป้งยังอุ่นอยู่ เพราะแป้งที่เย็นเกินไปจะเริ่มแข็งและห่อยาก การพักแป้งในระยะเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้แป้งมีความยืดหยุ่นและง่ายต่อการห่อไส้

ความสำคัญของการกวนแป้ง

การกวนแป้งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะหากกวนแป้งไม่ดีพอ แป้งอาจเกิดก้อนหรือไม่เนียนพอ ซึ่งจะส่งผลให้เนื้อสัมผัสของขนมไม่เป็นที่พึงพอใจ การให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนในการทำแป้งขนมเทียนแก้ว จะช่วยให้ได้ขนมที่มีคุณภาพและอร่อยอย่างที่ตั้งใจ

การห่อขนมเทียนแก้ว

ขนมเทียนแก้ว แป้งนุ่มเก็บในตู้เย็นเป็นอาทิตย์แป้งยังนุ่มเหมือนทำเสร็จใหม่ -  YouTube

การเตรียมแป้งและไส้สำหรับห่อ

ก่อนที่จะเริ่มห่อขนมเทียนแก้ว ต้องแน่ใจว่าแป้งและไส้เย็นลงและพร้อมสำหรับการห่อ โดยแป้งควรมีความอุ่นกำลังดี ไม่ร้อนเกินไปจนทำให้ยากต่อการจัดการ หรือเย็นเกินไปจนแป้งแข็งและห่อยาก การที่แป้งยังคงอุ่นอยู่เล็กน้อยจะช่วยให้สามารถยืดหยุ่นและห่อไส้ได้ง่ายขึ้น ส่วนไส้ขนมควรปั้นเป็นก้อนกลมขนาดที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้การห่อเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

ขั้นตอนการห่อขนม

เริ่มต้นการห่อขนมโดยการดึงแป้งขึ้นมาในปริมาณที่เหมาะสมกับการห่อไส้หนึ่งก้อน ปริมาณแป้งที่ใช้ควรเพียงพอที่จะห่อไส้ให้มิดโดยไม่หนาจนเกินไป หลังจากนั้น ให้นำแป้งมาวางบนฝ่ามือแล้วแผ่ออกให้เป็นแผ่นบาง ๆ แต่ต้องระวังไม่ให้บางจนแป้งขาด

เมื่อแป้งแผ่ออกเป็นแผ่นเรียบร้อยแล้ว ให้นำไส้ที่ปั้นไว้วางตรงกลางแผ่นแป้ง จากนั้นค่อย ๆ ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบแป้งเข้าหากันรอบ ๆ ไส้ โดยให้แน่ใจว่าแป้งปิดไส้ได้มิดและไม่เหลือช่องว่างที่อาจทำให้ไส้เลอะออกมาในระหว่างการนึ่ง จากนั้นให้เด็ดแป้งส่วนเกินออกเพื่อให้ขนมมีขนาดพอดีและสวยงาม

การห่อด้วยใบตอง

หลังจากที่ห่อแป้งและไส้ด้วยแป้งเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการห่อขนมด้วยใบตอง ใบตองที่ใช้ห่อควรล้างให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อน จากนั้นให้ตัดใบตองเป็นชิ้นขนาดพอดีกับการห่อขนม ใบตองควรนุ่มและมีความยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถพับและห่อได้ง่าย

นำขนมที่ห่อด้วยแป้งแล้ววางลงบนใบตอง จากนั้นพับใบตองเข้าหากันโดยพับด้านบนก่อน แล้วตามด้วยการพับด้านข้างทั้งสองข้าง เมื่อพับเสร็จแล้ว ให้ใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้กลัดเล็ก ๆ เสียบที่ปลายใบตองเพื่อให้ห่อขนมไม่คลายตัว ใบตองจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นและกลิ่นหอมของขนมในระหว่างการนึ่ง ทำให้ขนมเทียนแก้วที่ได้มีกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่ดี

การนึ่งขนม

หลังจากห่อขนมเรียบร้อยแล้ว ให้นำขนมเทียนแก้วที่ห่อไว้เรียงในซึ้งสำหรับนึ่งที่ตั้งน้ำเดือดแล้ว ควรใช้ไฟกลางในการนึ่งและนึ่งประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุก การนึ่งควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำในซึ้งมีเพียงพอ และควรปิดฝาซึ้งให้สนิทเพื่อรักษาความร้อนและความชื้นในระหว่างการนึ่ง

ความสำคัญของการห่อขนม

การห่อขนมเทียนแก้วอย่างถูกต้องและสวยงามเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความน่ารับประทานของขนม ไม่เพียงแต่ทำให้ขนมมีรูปลักษณ์ที่ดี แต่ยังช่วยให้ขนมมีความชุ่มชื้น และช่วยป้องกันไม่ให้ไส้เลอะออกมาระหว่างการนึ่ง ทำให้ขนมที่ได้มีคุณภาพดีและสามารถเก็บไว้ได้นานอีกด้วย

การนึ่งขนมเทียนแก้ว

ขนม เทียน แก้ว ไส้เค็ม แป้งนุ่มหนึบ ไส้หวานเค็มมัน ทานแล้วอร่อยลงตัว

การเตรียมซึ้งสำหรับนึ่ง

ก่อนเริ่มการนึ่ง ต้องเตรียมซึ้งสำหรับนึ่งให้พร้อม ซึ้งที่ใช้ควรมีขนาดพอเหมาะกับปริมาณขนมที่ต้องการนึ่ง และต้องมีฝาปิดที่สามารถปิดได้สนิท เพื่อให้ไอน้ำสามารถกระจายไปทั่วซึ้งได้อย่างสม่ำเสมอ การนึ่งที่ดีควรใช้ไฟกลาง เพื่อให้ขนมสุกอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ หากใช้ไฟแรงเกินไป อาจทำให้ขนมสุกไม่ทั่วถึงและไส้ภายในอาจไม่ร้อนพอ

การวางขนมในซึ้ง

หลังจากที่เตรียมซึ้งและน้ำเดือดพร้อมแล้ว ให้นำขนมเทียนแก้วที่ห่อไว้เรียบร้อยแล้ววางลงในซึ้ง ควรจัดเรียงขนมในซึ้งอย่างเป็นระเบียบและไม่ทับกัน เพื่อให้ไอน้ำสามารถเข้าถึงขนมทุกชิ้นได้อย่างทั่วถึง การวางขนมอย่างระมัดระวังยังช่วยป้องกันไม่ให้ขนมเบียดหรือเสียรูปในระหว่างการนึ่ง ทำให้ขนมที่ออกมามีรูปลักษณ์สวยงามตามที่ต้องการ

ระยะเวลาและการควบคุมไฟ

ระยะเวลาในการนึ่งขนมเทียนแก้วควรใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ขนมสุกทั่วถึงทั้งแป้งและไส้ข้างใน ระหว่างการนึ่งควรตรวจสอบว่ามีน้ำในซึ้งเพียงพอ และอย่าให้ไฟอ่อนหรือแรงเกินไป เพราะจะทำให้ขนมสุกไม่เท่ากัน การควบคุมไฟให้อยู่ในระดับกลางช่วยให้ขนมสุกอย่างช้า ๆ ทำให้เนื้อแป้งมีความนุ่มเหนียวและไส้ภายในร้อนจนหอม

การตรวจสอบความสุกของขนม

เมื่อครบเวลาการนึ่ง 20 นาทีแล้ว ให้เปิดฝาซึ้งเพื่อตรวจสอบความสุกของขนม การตรวจสอบควรใช้วิธีการกดเบา ๆ ที่ผิวแป้ง หากแป้งเด้งกลับและไม่มีลักษณะเหนียวติดมือ แสดงว่าขนมสุกแล้ว แต่หากยังพบว่าแป้งยังเหนียวหรือยังไม่สุกเต็มที่ ควรนึ่งต่อไปอีก 3-5 นาที

การพักขนมหลังนึ่ง

หลังจากขนมสุกดีแล้ว ให้นำขนมออกจากซึ้งและพักไว้ให้เย็นลงเล็กน้อย การพักขนมหลังนึ่งจะช่วยให้แป้งคงรูปและไม่เปลี่ยนรูปทรงเมื่อเย็นลง การพักขนมในที่เย็นช่วยให้ขนมไม่เหนียวติดกันและง่ายต่อการเก็บรักษาหรือการจัดเสิร์ฟ

ความสำคัญของการนึ่งที่ถูกวิธี

การนึ่งที่ถูกต้องมีผลอย่างมากต่อคุณภาพของขนมเทียนแก้ว ขนมที่นึ่งได้อย่างสม่ำเสมอจะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มเหนียว ไส้ที่ห่ออยู่ภายในก็จะยังคงรสชาติเข้มข้นและไม่เลอะออกมา ขนมที่ผ่านการนึ่งอย่างเหมาะสมจะมีกลิ่นหอมและคงความอร่อยได้นาน ทำให้ขนมเทียนแก้วที่ทำออกมามีคุณภาพสูงและพร้อมสำหรับการนำไปเสิร์ฟหรือนำไปขาย

เคล็ดลับในการทำขนมเทียนแก้วให้สมบูรณ์แบบ

แป้งขนมเทียนแก้ว (ตราเจ้รี) น้ำหนัก1,000กรัม อร่อยเหมือนต้นตำรับ ใครทำก็อร่อยได้  ทำเป็นขนมเสร็จแล้วจะได้ประมาณ200กว่าชิ้น | Lazada.co.th

การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ

หนึ่งในเคล็ดลับสำคัญคือการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง การใช้ถั่วเขียวซีกที่สดใหม่และมีคุณภาพจะทำให้ไส้ขนมมีรสชาติเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่ดี ส่วนแป้งที่ใช้ในการทำแป้งขนมเทียนแก้วก็ควรเป็นแป้งมันสำปะหลังและแป้งท้าวยายม่อมที่มีคุณภาพ เพื่อให้แป้งที่ได้มีความนุ่มเหนียวและสามารถห่อไส้ได้อย่างดี ไม่แตกหรือเหนียวติดมือเกินไป

การปรุงไส้เค็มอย่างพิถีพิถัน

ไส้เค็มเป็นหัวใจของขนมเทียนแก้ว เพราะฉะนั้น การปรุงไส้ให้มีรสชาติกลมกล่อมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการปรุงไส้ ควรเจียวกระเทียมให้หอมก่อนที่จะนำถั่วเขียวบดลงไปผัด พร้อมกับปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำตาลตามสูตร การผัดไส้ด้วยไฟกลางค่อนอ่อนจะช่วยให้รสชาติแทรกซึมเข้าไปในเนื้อถั่วอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ไส้มีรสชาติที่อร่อยและมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน

การกวนแป้งอย่างต่อเนื่อง

การกวนแป้งขนมเทียนแก้วต้องใช้ความอดทนและต้องกวนอย่างต่อเนื่องจนกว่าแป้งจะสุกเต็มที่และเริ่มร่อนออกจากกระทะ การกวนแป้งอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้แป้งไม่จับตัวเป็นก้อนและมีความเนียนนุ่ม การกวนแป้งควรใช้ไฟกลางและต้องใส่ใจไม่ให้แป้งไหม้หรือติดกระทะ การกวนแป้งจนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่แป้งเริ่มลื่นไหลและไม่ติดกระทะเป็นสัญญาณว่าแป้งสุกแล้วและพร้อมนำมาห่อไส้ได้

การห่อขนมด้วยความละเอียดอ่อน

การห่อขนมเทียนแก้วต้องใช้ความละเอียดอ่อนและความชำนาญเพื่อให้ได้ขนมที่มีรูปลักษณ์สวยงามและไม่แตกขณะนึ่ง การห่อควรทำขณะที่แป้งยังอุ่นอยู่ เพื่อให้แป้งนุ่มและยืดหยุ่นพอที่จะห่อไส้ได้อย่างดี การดึงแป้งขึ้นมาห่อไส้ต้องทำอย่างเบามือ และควรปั้นขนมให้มีขนาดเท่ากันทุกชิ้นเพื่อให้สุกพร้อมกันเมื่อถึงขั้นตอนการนึ่ง

การนึ่งขนมในอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม

การนึ่งขนมในอุณหภูมิที่เหมาะสมคือไฟกลางและใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะช่วยให้ขนมเทียนแก้วสุกทั่วถึงทั้งแป้งและไส้ข้างใน การนึ่งที่นานเกินไปอาจทำให้แป้งแห้งและเหนียวเกินไป ขณะที่การนึ่งที่น้อยเกินไปจะทำให้ขนมสุกไม่ทั่วถึง นอกจากนี้ การตรวจสอบความสุกของขนมด้วยการสัมผัสผิวแป้งเป็นวิธีที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่าขนมเทียนแก้วสุกพอดี

การจัดเก็บและเสิร์ฟ

หลังจากที่ขนมเทียนแก้วสุกและพักให้เย็นลงแล้ว ควรจัดเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดเพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้ขนมแห้งเกินไป ขนมเทียนแก้วที่เก็บรักษาอย่างดีจะยังคงความนุ่มเหนียวและอร่อยเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ การจัดเสิร์ฟขนมเทียนแก้วในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและสะอาดจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับขนม และทำให้ผู้รับรู้สึกประทับใจ

การเสิร์ฟและเก็บรักษาขนมเทียนแก้ว

ขนมเทียนไส้เค็ม ขนมมงคล อร่อยนุ่มเหนียวไส้กลมกล่อม - รสรินทร์

การเสิร์ฟขนมเทียนแก้วอย่างมีสไตล์

การเสิร์ฟขนมเทียนแก้วสามารถทำได้หลายวิธีเพื่อเพิ่มความน่ารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเรียงขนมในจานขนมที่มีลวดลายสวยงาม หรือการใส่ในกล่องบรรจุภัณฑ์ที่มีดีไซน์เก๋ไก๋ นอกจากนี้ การตกแต่งขนมด้วยใบตองหรือกระดาษสีสวยที่ใช้รองขนม ก็สามารถเพิ่มความโดดเด่นและทำให้ขนมเทียนแก้วน่ารับประทานยิ่งขึ้นได้ การเสิร์ฟขนมเทียนแก้วในช่วงเวลาพิเศษ เช่น เทศกาลตรุษจีนหรือวันสำคัญอื่น ๆ สามารถทำให้ขนมเป็นที่จดจำและเพิ่มความประทับใจให้กับผู้รับ

การจัดเก็บขนมเทียนแก้วเพื่อคงความสดใหม่

หลังจากที่ขนมเทียนแก้วถูกนึ่งจนสุกและพักให้เย็น ควรจัดเก็บขนมในภาชนะที่มีฝาปิดแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้ขนมสัมผัสกับอากาศ ซึ่งจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นและความนุ่มของแป้งเอาไว้ หากไม่ได้รับประทานทันที ควรเก็บขนมไว้ในตู้เย็น ซึ่งสามารถเก็บได้นานถึง 3-5 วัน โดยไม่ทำให้ขนมเสื่อมคุณภาพ

ก่อนนำขนมออกมารับประทาน ควรอุ่นขนมในหม้อนึ่งสักครู่ เพื่อให้ขนมนุ่มและมีรสชาติที่อร่อยเหมือนตอนทำเสร็จใหม่ ๆ ขนมเทียนแก้วที่เก็บรักษาอย่างดีจะยังคงความนุ่มเหนียวและกลิ่นหอมของแป้ง และไส้ข้างในก็ยังคงมีรสชาติกลมกล่อมไม่เปลี่ยนแปลง

เคล็ดลับการเก็บรักษาเพื่อคงความอร่อย

สำหรับผู้ที่ต้องการเก็บขนมเทียนแก้วไว้รับประทานในภายหลัง การห่อขนมด้วยพลาสติกห่ออาหารก่อนจะเก็บเข้าตู้เย็นหรือช่องฟรีซเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการสูญเสียความชื้น และช่วยให้ขนมไม่แห้งหรือแข็งเกินไป เมื่อต้องการรับประทานอีกครั้ง สามารถนำขนมออกมาอุ่นในหม้อนึ่ง หรือใช้ไมโครเวฟที่ตั้งไว้ในโหมดอุ่นอาหารสักครู่ เพื่อให้ขนมกลับมานุ่มเหมือนเดิม

ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม

Không có mô tả ảnh.

ข้อควรระวังในการเตรียมส่วนผสม

  1. การเลือกวัตถุดิบ: การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญมาก การใช้ถั่วเขียวที่ไม่สดใหม่หรือแป้งที่มีคุณภาพต่ำจะส่งผลต่อรสชาติและเนื้อสัมผัสของขนม การเลือกใช้ถั่วเขียวที่มีความสดใหม่และไม่เหม็นหืนจะช่วยให้ไส้ขนมมีรสชาติที่ดีและไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
  2. การเตรียมไส้: การผัดไส้เค็มต้องใช้ไฟกลางค่อนอ่อนเพื่อป้องกันไม่ให้ไส้ไหม้หรือมีรสขม การเติมเครื่องปรุงรสต้องทำตามสูตรอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ไส้มีรสชาติกลมกล่อมและมีความเค็มที่พอดี

ข้อควรระวังในการทำแป้งขนมเทียนแก้ว

  1. การกวนแป้ง: การกวนแป้งต้องทำอย่างต่อเนื่องและใช้ไฟกลางเพื่อป้องกันไม่ให้แป้งไหม้หรือเกาะติดกระทะ การกวนจนแป้งเริ่มร่อนออกจากกระทะเป็นสัญญาณว่าคุณได้แป้งที่สุกพอดีแล้ว และสามารถนำมาห่อไส้ได้
  2. การห่อขนม: การห่อขนมเทียนแก้วต้องทำด้วยความระมัดระวังและไม่ควรให้แป้งเย็นลงก่อนห่อ เพราะแป้งที่เย็นจะทำให้ห่อยากและอาจทำให้ขนมไม่สวยงามหรือแตกในระหว่างการนึ่ง

การนึ่งขนม

  1. การตั้งซึ้งนึ่ง: เมื่อนำขนมเทียนแก้วไปนึ่ง ควรตั้งซึ้งให้มีน้ำเดือดก่อนแล้วค่อยวางขนมลงไป การนึ่งขนมในน้ำเดือดจะช่วยให้ขนมสุกทั่วถึงและไม่เกิดการก่อตัวของไอน้ำที่อาจทำให้ขนมเปียกหรือไม่สุก
  2. การตรวจสอบความสุก: การนึ่งขนมควรใช้เวลาประมาณ 20 นาที และควรตรวจสอบความสุกของขนมด้วยการสัมผัสผิวแป้ง หากแป้งยังไม่สุกทั่วถึงอาจทำให้ขนมมีความเหนียวหรือไม่สุกภายใน

คำแนะนำเพิ่มเติม

  1. การทำขนมเทียนแก้วล่วงหน้า: หากคุณต้องการเตรียมขนมเทียนแก้วล่วงหน้า การเก็บรักษาขนมในภาชนะที่ปิดสนิทจะช่วยให้ขนมคงความชุ่มชื้นและไม่แห้งกรอบ การอุ่นขนมในหม้อนึ่งก่อนรับประทานจะทำให้ขนมนุ่มและมีรสชาติที่อร่อยเหมือนทำใหม่
  2. การปรับปรุงสูตร: หากคุณทำขนมเทียนแก้วเพื่อขายหรือทำในจำนวนมาก คุณอาจต้องปรับปรุงสูตรหรือวิธีการทำให้เหมาะสมกับปริมาณและความต้องการของตลาด เช่น การเพิ่มปริมาณการทำไส้เค็มหรือการใช้เครื่องมือที่ช่วยให้การทำขนมเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. ขนมเทียนแก้วคืออะไร?

ขนมเทียนแก้ว เป็นขนมมงคลชนิดหนึ่งที่นิยมทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน ขนมนี้มีลักษณะเป็นแป้งใสเหนียว มักจะมีไส้เค็มด้านใน เช่น ไส้ถั่วเขียวบดที่ปรุงรส ด้วยกระเทียม, เกลือ, พริกไทย, และน้ำตาล ขนมเทียนแก้วหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและความสุขในชีวิต

2. ฉันต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้างในการทำขนมเทียนแก้ว?

ในการทำขนมเทียนแก้ว คุณจะต้องใช้วัตถุดิบหลักดังนี้:

  • สำหรับไส้เค็ม: ถั่วเขียว, กระเทียม, น้ำมันพืช, เกลือ, พริกไทย, น้ำตาลทราย, ต้นหอม
  • สำหรับแป้ง: แป้งมันสำปะหลัง, แป้งท้าวยายม่อม (หรือแป้งมัน), น้ำตาลทราย, น้ำมันพืช, น้ำเปล่า

3. ฉันสามารถเก็บขนมเทียนแก้วไว้ได้นานแค่ไหน?

ขนมเทียนแก้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3-5 วัน หากต้องการเก็บไว้ในระยะยาว คุณสามารถแช่แข็งขนมได้ โดยการห่อขนมให้แน่นและใส่ในภาชนะที่ปิดสนิท เมื่อจะรับประทานสามารถนำขนมออกมาอุ่นในหม้อนึ่งหรือไมโครเวฟก่อน

4. มีวิธีการนึ่งขนมเทียนแก้วอย่างไรให้สุกทั่วถึง?

เมื่อนำขนมเทียนแก้วไปนึ่ง ควรตั้งซึ้งให้น้ำเดือดก่อน จากนั้นวางขนมลงไปในซึ้งโดยไม่ให้ขนมสัมผัสน้ำโดยตรง นึ่งด้วยไฟกลางเป็นเวลา 20 นาที และตรวจสอบความสุกของขนมโดยการสัมผัสผิวแป้ง หากแป้งยังไม่สุกทั่วถึงให้เพิ่มเวลาในการนึ่ง

5. ฉันสามารถปรับปรุงสูตรขนมเทียนแก้วได้อย่างไร?

หากต้องการปรับปรุงสูตรขนมเทียนแก้วให้เหมาะสมกับรสนิยมของคุณหรือการทำในปริมาณมาก คุณสามารถปรับปริมาณไส้เค็มได้ตามความต้องการหรือทดลองใช้เครื่องมือใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำขนม เช่น การใช้เครื่องผสมแป้งหรือเครื่องนึ่งที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

สรุป

การทำขนมเทียนแก้วเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันและความใส่ใจในทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ขนมที่มีคุณภาพดีและรสชาติอร่อย ขนมเทียนแก้วเป็นขนมมงคลที่นิยมทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือแป้งใสเหนียวและไส้เค็มที่เข้มข้น การเตรียมส่วนผสมและขั้นตอนการทำต้องการความละเอียดและความแม่นยำในการทำ

ในการเตรียมส่วนผสมสำหรับไส้เค็ม การเลือกใช้ถั่วเขียวที่สดใหม่และการปรุงรสที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ขั้นตอนการทำไส้เค็มต้องใช้ไฟกลางค่อนอ่อนและควรระมัดระวังไม่ให้ไส้ไหม้

สำหรับการทำแป้งขนมเทียนแก้ว การเลือกแป้งที่มีคุณภาพและการกวนแป้งให้ได้ความเหนียวพอดีเป็นสิ่งสำคัญ การห่อขนมต้องทำด้วยความระมัดระวังไม่ให้แป้งเย็นลงก่อน การนึ่งขนมต้องใช้เวลาที่พอเหมาะและตรวจสอบความสุกเพื่อให้ได้ขนมที่สุกทั่วถึง

การเก็บรักษาขนมเทียนแก้วควรทำในภาชนะที่ปิดสนิท และหากต้องการเก็บไว้ในระยะยาว สามารถแช่แข็งได้ การอุ่นขนมก่อนรับประทานจะช่วยให้ขนมนุ่มและอร่อยเหมือนทำใหม่

การทำขนมเทียนแก้วเป็นศิลปะที่ต้องการความเอาใจใส่ในรายละเอียด แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นขนมที่มีรสชาติอร่อยและเป็นที่รักของทุกคนในเทศกาลตรุษจีน การปฏิบัติตามเคล็ดลับและข้อควรระวังต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสามารถทำขนมเทียนแก้วได้อย่างสมบูรณ์แบบและประสบความสำเร็จ