10 เครื่องปรุงสูตรกราโนล่าที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ: เพิ่มพลังงานและความเข้มข้นในแต่ละวัน

ถ้าคุณกำลังมองหาอาหารที่อร่อยและเพิ่มพลังงานให้กับชีวิตประจำวันของคุณ กราโนล่าคือตัวเลือกที่ดีที่คุณควรพิจารณา! กราโนล่าเป็นอาหารที่ทำจากธัญพืชและส่วนผสมที่เพิ่มความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการ เรามีสูตรกราโนล่าที่คุณต้องลอง เพราะมันไม่เพียงแค่อร่อย แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย!

Table of Contents

เครื่องปรุงสูตร 1: กราโนล่าผลไม้และครีมเมื่อร้อน

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • ผลไม้สดตามความชอบ (กล้วย สตรอเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่เป็นต้น)
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ครีมสด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. ในชามต้มน้ำตาลทรายและครีมจนน้ำตาลละลาย ปล่อยให้เย็นลง
  2. ใส่กราโนล่าลงไปในถ้วย
  3. หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโรยลงบนกราโนล่า
  4. เมื่อครีมเย็นลงแล้ว คว่ำลงบนผลไม้และกราโนล่า
  5. เสริฟทันทีและเพลิดเพลินกับพลังงานแรงในทุกๆ เม็ด!

เครื่องปรุงสูตร 2: กราโนล่าโกลด์เดนแบบครีมมี่

Homemade Granola Recipe (with easy variations!) - Simple Joy

วัตถุดิบ:

  • 2 ถ้วยกราโนล่า
  • น้ำผึ้ง ¼ ถ้วย
  • น้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย
  • วานิลลา 1 ช้อนชา
  • เนยถั่ว ¼ ถ้วย
  • เมล็ดมะม่วงหรือถั่วเขียว ½ ถ้วย
  • ครีมคาเมล ¼ ถ้วย

วิธีทำ:

  1. นำน้ำผึ้ง น้ำมันมะกอก วานิลลาและเนยถั่วมาผสมกันในกระทะที่อุ่นอย่างปานกลาง
  2. ตั้งไฟอ่อนๆ และคอยคนจนผสมเนื้อหนาขึ้น
  3. เมื่อผสมเนื้อหนาขึ้นและมีสีเขียวอ่อน เติมเมล็ดมะม่วงหรือถั่วเขียวลงไป คอยคนจนเมล็ดมะม่วงหรือถั่วเขียวเริ่มเจริญ
  4. ปิดไฟและใส่ครีมคาเมลลงไป คนให้เข้ากัน
  5. ใส่กราโนล่าลงในถ้วย แล้วราดหน้าด้วยส่วนผสมครีมมี่ที่ทำขึ้น
  6. เสริฟและสนุกกับรสชาติที่หอมหวานและครีมมี่ที่เข้ากันมาก!

เครื่องปรุงสูตร 3: กราโนล่าโกลด์เดนผสมผลไม้และโกฮันดา

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • ผลไม้สดตามความชอบ (แอปเปิ้ล กล้วย และสตรอเบอร์รี่เป็นต้น)
  • โกฮันดา ½ ถ้วย
  • น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. ผสมโกฮันดาและน้ำตาลมะพร้าวในชาม คนให้เข้ากัน
  2. นำกราโนล่าไปโรยลงในถ้วย
  3. หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโรยลงบนกราโนล่า
  4. ราดน้ำมันมะพร้าวและโกฮันดาที่ผสมเตรียมไว้ ตามด้วยเม็ดข้าวโพดทอดกรอบ
  5. เริ่มวันของคุณด้วยพลังงานจากกราโนล่าและผลไม้สดที่อร่อยและเพื่อสุขภาพ!

เครื่องปรุงสูตร 4: กราโนล่าผักและเม็ดทานตะวัน

How To Make Easy Homemade Granola | The Kitchn

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • ผักสดตามความชอบ (คะน้า ผักกาด และผักบุ้งเป็นต้น)
  • เม็ดทานตะวัน ½ ถ้วย
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลกาแฟ 1 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. นำกราโนล่าไปโรยลงในชาม
  2. ล้างผักสดให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นโรยลงบนกราโนล่า
  3. ใส่เม็ดทานตะวันลงไปในกระทะและย่างด้วยไฟอ่อน ๆ จนเม็ดทานตะวันเริ่มสีทอง
  4. ผสมน้ำมันมะกอกและน้ำตาลกาแฟเข้าด้วยกันในถ้วย คนให้เข้ากัน
  5. ราดส่วนผสมน้ำมันมะกอกและน้ำตาลกาแฟลงบนผักและกราโนล่า
  6. สั่งเสิร์ฟและสัมผัสความครีมีและความเค็มจากเม็ดทานตะวัน

เครื่องปรุงสูตร 5: กราโนล่าผลไม้และโกฮันดา

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • ผลไม้สดตามความชอบ (มะละกอ ส้ม และทับทิมเป็นต้น)
  • โกฮันดา ½ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. นำกราโนล่าไปโรยลงในถ้วย
  2. หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโรยลงบนกราโนล่า
  3. ผสมโกฮันดาและน้ำตาลทรายในชาม คนให้เข้ากัน
  4. นำน้ำมันมะกอกมาราดบนผลไม้และกราโนล่า
  5. ทิ้งไว้ในตู้เย็นเพื่อให้โกฮันดาเข้าสัมผัสกับกราโนล่า
  6. เมื่อเสิร์ฟ เพลิดเพลินกับรสชาติสดชื่นและความหวานจากผลไม้และน้ำตาลทราย

เครื่องปรุงสูตร 6: กราโนล่าผักและไส้กรอก

Quick Stovetop Granola Recipe: How to Make It

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • ผักสดตามความชอบ (ผักกระเฉด คะน้า และชีลูกกวาเป็นต้น)
  • ไส้กรอกไก่หรือไส้กรอกมีทูราส 2 แท่ง
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. นำกราโนล่าไปโรยลงในจาน
  2. ล้างผักสดให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นโรยลงบนกราโนล่า
  3. นำไส้กรอกมาย่างให้สุกและสีทอง หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
  4. ผสมน้ำมันมะกอกและน้ำตาลในชาม คนให้เข้ากัน
  5. นำไส้กรอกย่างเรียงลงบนผักและกราโนล่า
  6. ราดด้วยน้ำมันมะกอกและน้ำตาล และเสริฟคู่กับความกรอบจากไส้กรอก

เครื่องปรุงสูตร 7: กราโนล่าผลไม้และนมอัลมอนด์

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • ผลไม้สดตามความชอบ (องุ่น แคนตาลูป และมังคุดเป็นต้น)
  • นมอัลมอนด์ ½ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. นำกราโนล่าไปโรยลงในถ้วย
  2. หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโรยลงบนกราโนล่า
  3. ตั้งน้ำตาลทรายในกระทะและให้น้ำตาลละลายในไฟอ่อน
  4. เมื่อน้ำตาลละลายและมีสีเข้ม ตักนมอัลมอนด์ลงไป คนให้เข้ากัน
  5. ราดนมอัลมอนด์และน้ำตาลทรายลงบนผลไม้และกราโนล่า
  6. เพลิดเพลินกับรสชาติที่หอมหวานจากนมอัลมอนด์และผลไม้

เครื่องปรุงสูตร 8: กราโนล่าสับปะรดและเนยถั่ว

High Protein Vegan Granola (11g Protein Per Serving)

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • สับปะรดสดหรือสับปะรดกระป๋อง ½ ถ้วย
  • เนยถั่ว ¼ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. นำกราโนล่าไปโรยลงในจาน
  2. โรยสับปะรดบนกราโนล่า
  3. ตั้งน้ำตาลทรายในกระทะและให้น้ำตาลละลายในไฟอ่อน
  4. เมื่อน้ำตาลละลายและมีสีเข้ม ใส่เนยถั่วลงไป คนให้เข้ากัน
  5. ราดน้ำตาลทรายและเนยถั่วลงบนสับปะรดและกราโนล่า
  6. เพลิดเพลินกับรสชาติหวานของสับปะรดและเนยถั่ว

เครื่องปรุงสูตร 9: กราโนล่าผักและซอสหอยนางรม

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • ผักสดตามความชอบ (ผักกาด คะน้า และผักสลัดเป็นต้น)
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. นำกราโนล่าไปโรยลงในจาน
  2. ล้างผักสดให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นโรยลงบนกราโนล่า
  3. ผสมซอสหอยนางรมและน้ำมันมะกอกในชาม คนให้เข้ากัน
  4. ราดซอสหอยนางรมและน้ำมันมะกอกลงบนผักและกราโนล่า
  5. เพลิดเพลินกับรสชาติเค็มจากซอสหอยนางรมและความกรอบจากกราโนล่า

เครื่องปรุงสูตร 10: กราโนล่าผลไม้และน้ำมะพร้าว

30-Minute Sweet & Simple Crunchy Granola - Life is but a Dish

วัตถุดิบ:

  • 1 ถ้วยกราโนล่า
  • ผลไม้สดตามความชอบ (มังคุด กล้วย และส้มเป็นต้น)
  • น้ำมะพร้าว ½ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. นำกราโนล่าไปโรยลงในจาน
  2. หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโรยลงบนกราโนล่า
  3. ผสมน้ำมะพร้าวและน้ำตาลทรายในชาม คนให้เข้ากัน
  4. ราดน้ำมะพร้าวและน้ำตาลทรายลงบนผลไม้และกราโนล่า
  5. สัมผัสความหวานจากน้ำมะพร้าวและผลไม้ และเพลิดเพลินกับรสชาติที่สดชื่น

สรุป

ในบทความนี้เราได้รู้จักกับหลากหลายสูตรกราโนล่าที่อร่อยและเพิ่มพลังงานให้กับการรับประทานของเรา กราโนล่าไม่เพียงเป็นตัวเลือกอาหารที่อร่อยและสำหรับทุกๆ คน แต่ยังเป็นเครื่องปรุงสุดเพรียวที่สามารถปรับปรุงและปรับแต่งให้เข้ากับรสนิยมและความต้องการของแต่ละคนได้อย่างเต็มที่

FAQs

1. กราโนล่ามีประโยชน์ทางโภชนาการอย่างไร?

กราโนล่าเป็นแหล่งของใยอาหารสูงที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการย่อยอาหาร ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ

2. มีวิธีการเก็บรักษากราโนล่าให้ยาวนานอย่างไร?

ควรเก็บกราโนล่าในภาชนะที่ลมหรือซีลแน่น เพื่อป้องกันการเข้าถึงของอากาศและความชื้น นอกจากนี้ควรเก็บในที่แห้งและเย็นเพื่อให้รักษาความสดชื่นและความกรอบ

3. กราโนล่าสามารถทานเป็นอาหารว่างได้หรือไม่?

ใช่! กราโนล่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาหารว่าง เพราะมีใยอาหารสูงที่ช่วยสร้างความเต็มหน่วยและป้องกันความหิวระหว่างมื้อ

4. มีวิธีการสร้างกราโนล่าที่ไม่ใช้น้ำตาลหรือผลไม้หวานอย่างไร?

คุณสามารถใช้น้ำตาลแทนทางหวานที่มาจากผลไม้ เช่น น้ำตาลกาแฟ นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มผลไม้ที่มีรสขม เช่น ลูกแพร์หรือแอปเปิ้ลเขียว เพื่อเพิ่มความหวานและรสชาติ

5. กราโนล่าสามารถใช้เป็นส่วนผสมในเมนูอาหารอื่น ๆ ได้ไหม?

แน่นอน! คุณสามารถใช้กราโนล่าเป็นส่วนผสมในเมนูอาหารอื่น ๆ เช่น ใส่ในโยเกิร์ต ผสมกับเม็ดมัสลินอร์หรือใช้เป็นท็อปปิ้งสำหรับมูฟฟิน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมในขนมและเครื่องดื่มได้ด้วย