ในยุคที่เรามีโอกาสมากมายในการสัมผัสความหลากหลายของอาหารทั่วโลก วาฟเฟิลฮ่องกง (Waffle Hong Kong) กลายเป็นเครื่องดื่มและของหวานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ในบทความนี้เราจะพาคุณสู่โลกของวาฟเฟิลฮ่องกง และแบ่งปันสูตรอาหารที่อร่อยที่สุดจากร้านอาหารในฮ่องกง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่หลงรักความหวานหรืออาหารอร่อย หรือแม้แต่คนที่รักการสรรหาสิ่งอื่นๆ เช่นกัน หลายๆ สูตรที่เราเสนอนี้จะทำให้คุณต้องตะลึงรสนานแน่นอน!
1. วาฟเฟิลฮ่องกงสตรอเบอร์รี่
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1/2 ถ้วยสตรอเบอร์รี่สดหรือแช่แข็ง
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- ใส่สตรอเบอร์รี่ลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลสตรอเบอร์รี่พร้อมกับน้ำผึ้งหรือไอศกรีม.
2. วาฟเฟิลฮ่องกงน้ำมันมะพร้าว
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1/2 ถ้วยน้ำมะพร้าว
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันมะพร้าว
- 1 ช้อนชาวานิลลา
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำมะพร้าว, น้ำมันมะพร้าว, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลน้ำมันมะพร้าวพร้อมกับผลไม้สดหรือน้ำผึ้งตามความชอบ.
3. วาฟเฟิลฮ่องกงชีสมูนไหน
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1 ถ้วยน้ำ
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
- 1/2 ถ้วยชีสมูนไหน (หรือชีสในรูปแผ่น)
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- ใส่ชีสมูนไหนลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลชีสมูนไหนพร้อมกับผลไม้สดหรือผักผลไม้ตามความชอบ.
4. วาฟเฟิลฮ่องกงคาราเมล
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1 ถ้วยน้ำ
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
- 2 ช้อนโต๊ะคาราเมลเหลว
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- เทคาราเมลเหลวลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลคาราเมลพร้อมกับไอศกรีมหรือเนยถั่วคาราเมล.
5. วาฟเฟิลฮ่องกงสับปะรด
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1 ถ้วยน้ำ
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
- 1/2 ถ้วยสับปะรดสดหรือแช่แข็ง
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- ใส่สับปะรดลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลสับปะรดพร้อมกับน้ำผึ้งหรือไอศกรีม.
6. วาฟเฟิลฮ่องกงมะม่วง
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1 ถ้วยน้ำ
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
- 1/2 ถ้วยมะม่วงหั่นเป็นชิ้นเล็ก
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- ใส่มะม่วงลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลมะม่วงพร้อมกับน้ำผึ้งหรือไอศกรีม.
7. วาฟเฟิลฮ่องกงเบอร์รี่และช็อกโกแลต
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1 ถ้วยน้ำ
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
- 1/2 ถ้วยสตรอเบอร์รี่สดหรือแช่แข็ง
- 1/2 ถ้วยช็อกโกแลตชิ้นเล็ก
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- ใส่สตรอเบอร์รี่และช็อกโกแลตลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลสตรอเบอร์รี่และช็อกโกแลตพร้อมกับน้ำผึ้งหรือไอศกรีม.
8. วาฟเฟิลฮ่องกงทาโกะ
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1 ถ้วยน้ำ
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
- 1/2 ถ้วยทาโกะสลัด
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- ใส่ทาโกะสลัดลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลทาโกะพร้อมกับน้ำผึ้งหรือไอศกรีม.
9. วาฟเฟิลฮ่องกงมังกร
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1 ถ้วยน้ำ
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
- 1/2 ถ้วยเนื้อมังกรสดหรือแช่แข็ง
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- ใส่เนื้อมังกรลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลมังกรพร้อมกับน้ำผึ้งหรือไอศกรีม.
10. วาฟเฟิลฮ่องกงแบคอน
ส่วนผสม:
- 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 1/2 ช้อนชาเบกกิ้งโซดา
- 1 ถ้วยน้ำ
- 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช
- 1 ช้อนชาวานิลลา
- 1/2 ถ้วยเบคอนหั่นเป็นชิ้นเล็ก
วิธีทำ:
- ผสมแป้ง, น้ำตาลทราย, เกลือ, และเบกกิ้งโซดาในอ่างผสมใหญ่.
- เพิ่มน้ำ, น้ำมันพืช, และวานิลลาลงไป ผสมจนเนื้อเริ่มจับตัว.
- ใส่เบคอนลงในเนื้อและคนเบาๆ ให้ทั่ว.
- อบวาฟเฟิลตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
- เสิร์ฟวาฟเฟิลแบคอนพร้อมกับน้ำผึ้งหรือไอศกรีม.
สรุป
ในบทความนี้เราได้เสนอสูตรวาฟเฟิลฮ่องกงที่หลากหลายสไตล์ที่คงความอร่อยและสดใหม่ทุกครั้งที่ลองทำที่บ้าน ไม่ว่าคุณจะหลงรักความหวาน, ชาเย็น, หรือผสมสีสันจากผลไม้สด หรือแม้แต่เนื้อเบคอนครีม คุณสามารถพิเศษน้ำแข็งใส่หรือเสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งหรือไอศกรีมตามความชอบของคุณ วาฟเฟิลฮ่องกงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างขนมหวานในบ้าน ลองทำและติดตามความคืบหน้าของคุณ!
FAQs
1. สามารถเปลี่ยนแปลงส่วนผสมในวาฟเฟิลได้หรือไม่?
ใช่, คุณสามารถปรับแปรงส่วนผสมในวาฟเฟิลตามความชอบส่วนตัวของคุณได้ แต่จำได้ว่าการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมอาจทำให้ความอร่อยเปลี่ยนไปด้วย.
2. วิธีเพิ่มรสชาติให้วาฟเฟิลฮ่องกง?
คุณสามารถเพิ่มรสชาติให้วาฟเฟิลโดยการใส่ผลไม้สด, ผลไม้แช่แข็ง, น้ำผลไม้, หรือสิ่งอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบลงในเนื้อวาฟเฟิลก่อนที่จะอบ.
3. วิธีเก็บวาฟเฟิลฮ่องกงให้รอดนาน?
วาฟเฟิลฮ่องกงสามารถเก็บได้นานถ้าเก็บในซองลมฉีกและเก็บในที่แห้งและเย็น หากเป็นวาฟเฟิลที่มีหลายชิ้น ควรวางกระดาษชำระระหว่างชิ้นแต่ละชิ้น.
4. วาฟเฟิลฮ่องกงเหมาะสำหรับอาหารมื้อไหน?
วาฟเฟิลฮ่องกงเหมาะสำหรับมื้ออาหารเช้าหรือพักเที่ยง แต่คุณสามารถทานได้ตลอดวัน เป็นขนมหวานหรืออาหารว่างในช่วงเย็น.
5. วาฟเฟิลฮ่องกงใช้เครื่องให้ความร้อนอะไรในการอบ?
คุณสามารถใช้เตาอบหรือเครื่องอบวาฟเฟิล ตามคำแนะนำของผู้ผลิตของเครื่อง. หากใช้เตาอบธรรมดา, ควรเปิดตัวเลือกการอบด้วยความร้อนที่ 180 องศาเซลเซียส.